fbpx

ฉีดโบท็อก ไม่ใช่แค่สวย แต่ยังช่วยแก้อาการปวดหัวเรื้อรัง

โบท็อกเป็นโปรตีนที่ออกฤทธิ์ในการช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่หดตัว ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัว ทำไมโบท็อกจึงรักษาอาการไมเกรนได้?

ปรึกษานัดจองคิวคุณหมอฟรี !!!

ฉีดโบท็อก ไม่ได้มีดีแค่เรื่องความสวย
ฉีดโบท็อก ไม่ได้มีดีแค่เรื่องความสวย

แต่ยังช่วยบรรเทาอาการปวดหัวเรื้อรัง

ใครไม่เคยปวด ไมเกรน คงไม่รู้ว่าอาการปวดไมเกรนนั้นทรมาณมากขนาดไหนและมีผลต่อการดำเนินชีวิตมากอย่างไร เรียกว่าปวดจนไม่สามารถทำอะไรได้ต้องหยุดงานหยุดเรียน ที่สำคัญไม่น่าเชื่อว่ามีคนจำนวนมากที่ต้องทนทุกข์ทรมาณกับอาการปวดไมเกรน ในเมืองไทยพบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคปวดศีรษะไมเกรนมากถึง 17% โดยผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า

ไมเกรน (Migraine) เป็นอาการปวดหัวที่หลายคนประสบกับปัญหา บางคนมีอาการปวดชั่วคราว บางคนมีอาการปวดเรื้อรัง และคนจำนวนมากรักษาด้วยการกินยาหลายปีก็ไม่หาย เป็นอาการปวดที่สร้างความรำคาญใจให้ต่อเนื่องยาวนาน โดยไมเกรนเป็นโรคที่เกิดจากการบีบตัวและคลายตัวของหลอดเลือดแดงในสมองมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการปวดหัวขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว บางคนอาจมีอาการดังกล่าวพร้อมกับอาการคลื่นไส้อาเจียน รวมถึงมีอาการตาพร่ามัวร่วมด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจเข้ามาฉีดโบท็อกลดอาการปวดหัวเรื้อรังสามารถติดต่อเข้ามานัดจองคิวกับคุณหมอได้เลย เราพร้อมให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา ที่เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาได้จริงในบทความนี้เราได้รวบรวมความรู้เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกเพื่อรักษาการเกิดไมเกรนไว้ ให้ทุกคนได้ศึกษา จะได้ไม่โดนหลอกจากมิจฉาชีพที่หากินโดยการสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น อย่างเช่น หมอเถื่อนหรือหมอกระเป๋า

ปวดศีรษะ ไมเกรน สาเหตุมาจากอะไร

                อาการปวดศรีษะ ไมเกรนมักปวดศีรษะข้างเดียว แต่อาการอาจย้ายข้างหรือสลับไปมาทั่ว ๆทั้งสองข้างอาการอาจรุนแรงมากถึงขณะที่ไม่สามารถทำงานได้ อาการปวดศีรษะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยอาการที่ผู้ป่วยมาปรึกษาแพทย์บ่อยที่สุดคือ ปวดศีรษะไมเกรน สาเหตุเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้สมองไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ หรือเกิดการอักเสบของเส้นเลือด สมอง และเส้นประสาท พบมากในเพศหญิงมากกว่าชาย โดยเฉพาะช่วงอายุ 25 – 55 ปี

Botulinum toxin รักษาไมเกรน

                ผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนเรื้อรัง (Chronic Migraine) คือปวดศีรษะอย่างน้อย 14 วันต่อเดือนขึ้นไป การฉีด Botulinum Toxin ชนิด A เป็นอีกวิธีหนึ่งที่แพทย์นำมาใช้รักษา ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว เชื่อว่าสามารถยับยั้งปลายประสาทที่ส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมองด้วย จึงลดความรุนแรงของอาการปวดศีรษะได้เป็นอย่างดี และอาจไม่จำเป็นต้องรับประทานยาแก้ปวดศีรษะเป็นประจำ

โดยแพทย์จะฉีด Botulinum toxin ที่ใบหน้าระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ และบ่า 31 จุด จากการวิจัยพบว่า สามารถลดอาการปวดลงได้ 60 – 70% มีผลอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน มีผลข้างเคียงน้อย นอกจากการฉีดสาร Botulinum toxin แล้ว ไมเกรนยังรักษาด้วยวิธีอื่น อาทิ การให้ยาป้องกันทานติดต่อกัน 6 เดือน – 1 ปี การใช้วิตามินหรือเกลือแร่ การใช้ยาฉีดร่วมกันหลายชนิด เพื่อลดอาการปวด เป็นต้น หรือการรักษาแบบไม่ใช้ยา อาทิ การ ฝังเข็ม การทำกายภาพบำบัด ให้เรียนรู้ถึงการควบคุมการทำงานของร่างกาย เช่น การหายใจ การกำหนดจิต เป็นต้น

ทำไมโบท็อกจึงรักษาอาการไมเกรนได้?

อาการปวดศีรษะไมเกรน เกิดจากการตึงตัวของกล้ามเนื้อบริเวณบ่า และคอ ทำให้รบกวนระบบการไหลเวียนเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เกิดอาการตึงและปวด ตามมาด้วยอาการของเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ เห็นแสงระยิบระยับ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น โบท็อกเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ สกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่ออกฤทธิ์ในการช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่หดตัว ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัวทำให้อาการตึงตัวของกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและคอ ที่เป็นต้นเหตุของอาการปวดไมเกรนคลายตัวช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น เป็นการรักษาอาการปวดไมเกรนที่ต้นเหตุ สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดศรีษะ ลดความถี่ของอาการปวดศรีษะ รวมทั้งทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยาฉีดยังมีความปลอดภัยสูง และยังพบว่าผู้รับการรักษาไมเกรนด้วยการฉีดโบท็อกริ้วรอยที่บริเวณหน้าผากลดน้อยลง ถือเป็นผลข้างเคียงที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เข้ารับการรักษา ไม่เพียงแต่หายปวดไมเกรนแต่ยังดูอ่อนวัยลงด้วย

สำหรับการฉีดเพื่อรักษาไมเกรน จะฉีดในทุกๆ 3 เดือน และมีตำแหน่งการฉีดเฉพาะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมการฉีดเพื่อลดอาการไมเกรนโดยเฉพาะ ไม่เช่นนั้นก็อาจไม่ได้ผล Juvenile Clinic ขอให้คำแนะนำว่าต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งคัด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายร้ายแรงตามมาที่หลัง

 

ทักมาเลย !! โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะคุณเท่านั้น